สุภาษิตพระร่วง |
สุภาษิตพระร่วง
เป็นมรดกทางด้านภาษาและวรรณกรรมที่สืบทอดกันแต่โบราณ
สันนิษฐานว่าเดิมน่าจะเป็นวรรณกรรมแบบมุขปาฐะภาษิตและคำสอน
และขยายมาเป็นวรรณกรรมลายลักษณ์รูปแบบต่าง ๆ เช่น
โคลงประดิษฐ์พระร่วง พระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
ร่ายสุภาษิตพระร่วงฉบับจารึกวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม พระนิพนธ์ในสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส
ร่ายสุภาษิตพระร่วง ฉบับวัดเกาะ ร่ายสุภาสิทตัง
ฉบับวัดลาด อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี
กาพย์สุภาษิตพระร่วง ฉบับวัดเกาะ
และสุภาษิตพระร่วงคำโคลง
พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
โดยมีสำนวนเนื้อหาคำสอนตรงกันเป็นส่วนใหญ่
หากแต่มีการใช้ถ้อยคำภาษาที่ตรงกันบ้าง ผิดแผกไปจากกันบ้าง
อันเนื่องมาจากการเรียบเรียงเป็นลายลักษณ์อักษรในต่างยุค ต่างสมัย
และต่างถิ่นกัน ภาษิตคำสอนดังกล่าวนี้เรียกกันโดยทั่วไปว่า
"สุภาษิตพระร่วง"
แต่ละสำนวนอาจมีชื่อเรียกเฉพาะแตกต่างกันออกไป
ข้อคิดคำสอนในสุภาษิตเหล่านี้ส่วนใหญ่มีรากฐานที่มาร่วมกัน
และเป็นความคิดที่ตกทอดสืบต่อกันมาทางมุขปาฐะ
คืออาศัยปากต่อปากเล่าสู่กันฟัง ตั้งแต่ก่อน พ.ศ.1800
มาถึงสมัยที่พระร่วงขึ้นเป็นกษัตริย์กรุงสุโขทัย
ข้อคิดคำสอนดังกล่าวก็แพร่หลายทั่วไปเชื่อกันว่าเป็นข้อคิดคำสอนที่พระร่วง
ทรงใช้อบรมสั่งสอนพลเมืองของพระองค์ให้ประพฤติปฏิบัติในแนวทางที่ถูกต้องดัง
ความตอนหนึ่งในโคลงประดิษฐ์พระร่วง
ฉบับพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย
ที่ว่า
|
พระองค์พงศ์เผ่าสร้อย | สรรเพชญ์ |
ภาคญาณสารแสวงเสร็จ | สิ่งสิ้น |
กล่าวกลอนสอนแสดง | ผดุงโลกย์ |
ไพเราะเสนาะสนิทลิ้น | เลิศล้นสกลไกร (๑) |
นอกจากนี้ในหนังสือเล่มเดียวกันยังได้ระบุตอนท้ายอีกว่า |
พระร่วงล่วงโลกย์ล้ำ | คำสอน |
สัตว์นรากรนร | กราบเกล้า |
จำบทพจน์รสกลอน | พจนเลิศ |
เสวยสวรรค์สรรพสุขเท้า | โมกขม้วนควรแสวง (๕๓) |
มฤธุรรสพจนารถไว้ | เป็นเฉลิม |
ตรีภพจบสกลเจิม | แจ่มหล้า |
ธรรมศาสตร์อาทิคุณเผดิม | ผดุงโลกย์ |
ศุภผลดลแด่นฟ้า | เฟื่องฟุ้งคุ้งสวรรค์ (๕๔) |
คณะกรรมการคัดสรรและเผยแพร่วรรณกรรมของชาติ กรมวิชาการ
กระทรวงศึกษาธิการ ได้คัดสรรสุภาษิตที่มีคุณค่าของชาติ ซึ่งหาอ่านได้ยาก
นำมาจัดพิมพ์เป็นรูปเล่มใหม่ชื่อว่า
ประชุมสุภาษิตพระร่วง
เป็นหนังสือเล่มหนึ่งในชุดวรรณกรรมภาษิตและคำสอน
เพื่อเป็นการอนุรักษ์วรรณกรรมที่มีค่าของชาติให้คงอยู่สืบไป
เพื่อให้นักเรียน นักศึกษา ครูอาจารย์ และผู้สนใจทั่วไปใช้ศึกษา
และให้ข้อคิดแนวทางประพฤติปฏิบัติตน
|
ตัวอย่าง |
ปลูกไมตรีอย่ารู้ร้าง | สร้างกุศลอย่ารู้โรย |
อย่าโดยคำคนพลอด | เข็นเรือทอดทางถนน |
น้ำเชี่ยวอย่าขวางเรือ |
ที่สุ้มเสือจงประหยัด |
จงเร่งระมัดฟืนไฟ | ตนเป็นไทยอย่าคบทาส |
ยอครูยอต่อหน้า |
ยอข้าเมื่อแล้วกิจ |
ยอมิตรเมื่อลับหลัง | ลูกเมียยังอย่าสรรเสริญ |
อย่าตีงูให้กา |
อย่าตีปลาหน้าไซ |
อย่าใจเบาจงหนัก | อย่าตีสุนัขห้ามเห่า |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น